BYUN FREAKING BAEKHYUN
Prompt : #312 จากคุณ Justcoolkids
Pairing: คยองซู / แบคฮยอน
Summary: -
Author : Ayahsoo
Author : Ayahsoo
Author Note(s): นี่ไม่ได้กวนนะคะ 5555 แฮะ แต่พล็อตให้มา – เดียวจริงๆ เราชอบความติสท์ เราเลยจัดหั๊ยยยย เยี่ยม!
เมื่อคยองซูเห็นมันในครั้งแรก นอกจากเรียกได้ว่า
โคตรตกใจแล้ว เขาถึงกับชะงักก่อนจะถอนสายตาออกจากภาพที่เห็นอย่างรวดเร็วตามมารยาท
ชายหนุ่มกระแอมในลำคอด้วยความอึดอัด ก่อนจะตั้งใจหันกลับไปมองมันอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดแต่อย่างใด
โอ้ คยองซูไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันเป็นรอยสักหรือแค่ลายเพ้นท์
บนกล้ามเนื้อแถวๆลายซี่โครงของพยอนแบคฮยอน
เพราะเมื่อตะกี้ มันแค่โผล่มาวับๆแวบๆให้เห็นในตอนที่อีกฝ่ายถอดเสื้อ
แล้วหันข้างก้มหาเสื้อผ้าเปลี่ยนตามปกติ แต่จังหวะที่เจ้านั่นก้มลงไปเก็บผ้าขนหนูซึ่งตกอยู่บนพื้น
สายตาของคยองซูก็หันไปสบกับปาร์คชานยอลเข้าให้ เขานิ่งตามนิสัย ค่อนข้างแน่ใจว่าชานยอลก็เห็นเหมือนกับที่เขาเห็น
แต่ไอ้โย่งนั่นก็ยังไม่พูดอะไร
เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่เพียงแค่ยกยิ้มมุมปากแล้วผิวปากเบาๆ เมื่อแบคฮยอนยืดตัวขึ้นคว้าเสื้อยืดทำท่าจะสวมใส่อีกรอบ
ถ้าว่ากันตามจริง ลวดลายสีดำสนิท มันก็มองแทบไม่เห็นเพราะถ้าหากไอ้ลูกหมานั่นหันข้าง
ปล่อยแขนทิ้งข้างตัวตามปกติ ท่อนแขนของแบคฮยอนก็จะบังรอยสักจนเกือบมิด
เขาหันกลับไปจ้องชานยอลอีกรอบ ในแบบที่อีกฝ่ายเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่า ‘พ่นความจริงออกมาซะ ในตอนที่ฉัน ...
คยองซูคนนี้ยังพูดดีๆอยู่’ แต่อีกฝ่ายก็ทำเงียบ
แล้วเดินหนีไปนั่งเล่นโทรสับด้วยสีหน้ายิ้มๆอยู่มุมห้อง หน้าตาเฉยเลยด้วย แต่เขารู้จักชานยอลเป็นอย่างดีเชียวแหละ
รู้จักจนมั่นใจได้ว่า ไอ้เวรนี่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ใบหน้าเรียบเฉยของคยองซูขมวดคิ้ว ... ดวงตาไม่สบอารมณ์ยังคงมองตามท่อนบนเปลือยเปล่าของแบคฮยอนไม่ลดละ
มองอีกครั้ง มองมันด้วยความสงสัยแล้วไม่ได้คำตอบ มองแม่งอยู่อย่างนั้น มอง ...
ใช้วิธีหาคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน ในสไตล์ของโดคยองซูมาเองของแท้แน่นอน
มองจน ...
ใบหน้าซุกซนเหมือนเด็กรุ่นๆขององค์ชายสิบในละครทีวีหันกลับมาสบตา ดวงตาสุกใสตามสไตล์พยอนแบคฮยอนตัวจริงเสียงจริงเช่นกัน
คยองซูไม่ได้พูดอะไร ... ไอ้ว่าอึ้งก็อึ้ง โดนจับได้ ปกติเคยที่ไหน
ที่เขาให้ความสนใจคนเพี๊ยนๆอย่างเจ้านั่นก่อน มีเหรอที่ต้องไปเป็นฝ่ายง้อ? แต่สุดท้ายด้วยนิสัย เขาก็ไม่ได้แสดงออกว่าเห็นสิ่งที่เพื่อนร่วมวงตั้งใจจะปกปิดมันหรือไม่
คยองซูทำเพียงแค่ปรายตามองใบหน้าของแบคฮยอนอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินหายออกไปทางห้องอาบน้ำ
และในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังจะถอดเสื้อยืดกับกางเกงชุ่มเหงื่อออก
เสียเปิด - ปิดประตูก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง คยองซูหันกลับไปมอง ในกรอบสายตาเห็นเพียงแผ่นหลังขาวจัดที่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวกันเป็นริ้วสวยกับกางเกงผ้ายืดซึ่งกำลังเกาะสะโพกอยู่อย่างหมิ่นเหม่ของแบคฮยอนเพียงเท่านั้น
ไม่อยากยอมรับเลย แต่ด้วยความสัตย์จริง โดคยองซูกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกจนเสียงมันดังก้องอยู่ในแก้วหู
...
ในตอนนี้ เมื่อท่อนบนของแดนซ์แมชชีน(?)คนใหม่ ... ไอ้ตำแหน่งที่เจ้าตัวทำทีเล่นทีจริงอยากได้มันนักหนาไม่มีอะไรมาบดบัง
สายตาของคยองซูได้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันคือรอยสักอย่างแน่นอน น้ำหมึกสีดำสนิทถูกประทับอยู่บนผิวเนื้ออ่อนแถวๆใต้ราวนม
ต่ำลงใกล้กับซี่โครงของพยอนแบคฮยอนซึ่งตอนนี้ผิวเนื้อบริเวณนั้นกำลังขึ้นรอยแดงพร้อมกับอาการบวมนิดหน่อย
ถึงว่า ... พากันหายไปไหนมาทั้งคืน ชานยอล จงแด แบคฮยอน นี่ถ้าให้เดา
คงมีรอยสักอยู่บนร่างกายของคิมจงแดสักที่ด้วยล่ะมั้ง
“ดโยอ่า
... อยากถามอะไรฉันป่ะ”
น้ำเสียงแหบพร่าดังก้องขึ้นมาเบาๆในห้องอาบน้ำ พร้อมกับเสียงเพลงตึงๆจากห้องข้างๆยังคงดังลอดเข้ามา
บอกให้รู้ว่าสมาชิกที่เหลือยังคงซ้อมเต้นกันอยู่ ใบหน้าอ่อนเยาว์เกือบจะไร้เดียงสากับดวงตาเส้นตกเป็นเอกลักษณ์หันกลับมาถาม
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงเชื่อว่าแบคฮยอนถามมันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง ที่บอกว่าเกือบจะไร้เดียงสาน่ะ
... เขาหมายความตามนั้นจริงๆ
เพราะตอนนี้ไอ้หน้าไม่อายนั่นกำลังทำท่าจะถอดกางเกงผ้าของตัวเองลงทั้งๆที่ยังเผชิญหน้ากับเขาอยู่
“ก็เห็นยืนจ้องนานแล้วนะ
อยากรู้ไรป่ะ คยองซู...”
คยองซูไม่ตอบโต้ ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกโดยไม่สนใจคนที่พยายามจะยั่วอารมณ์ให้เขาหงุดหงิดสักเท่าไหร่นัก
เขาอ่านเกมของแบคฮยอนออกทุกอย่าง ทั้งๆที่เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่ตอนที่เขาเมาหนักแล้วหลุดปากบอกอีกฝ่ายไปว่า
เขาเป็นไบ ได้ทั้งชาย ได้ทั้งหญิง
ถ้ารู้จักแบคฮยอนดีพอ จะรู้ว่าเจ้านี่ชอบความรู้สึกที่ตัวเองกำลังจะเป็นผู้ชนะ
ได้คนอื่นมาอยู่ในกำมือง่ายๆ ชอบนักไอ้การเล่นกับจุดอ่อนของคนอื่นเนี่ย
โดยเฉพาะหลังจากที่แบคฮยอนรู้ว่าตัวเองมีดีอะไรอยู่ในกำมือ หลังจากนั้นก็มักจะเอาเสน่ห์ที่ว่ามาใช้ทำให้คนอื่นหัวปั่นเพราะ ‘ความอยากเอาชนะ’ ได้อย่างง่ายดาย
“นี่ของจริงนะ” จีบปาก
จีบคอพูดพลางชี้ปั่บๆเข้าที่รอยสักใหม่เอี่ยมของตัวเอง “เพิ่งไปลงลายมาเมื่อวาน เท่ใช่ไหมล่ะ ...
มาดูใกล้ๆได้นะ”
เดี๋ยว ... เดี๋ยวก่อน เริ่มหงุดหงิดเข้าให้จริงๆแล้ว
ปากดีแบบนี้ ... จะตอบแทนด้วยอะไรดี?
คยองซูสบถ ... ในขณะที่แบคฮยอนหันกลับมาทั้งตัวยืนทิ้งสะโพกพิงตู้เก็บเสื้อผ้าด้วยใบหน้ายิ้มอย่างเป็นต่อ
กางเกงผ้าสำหรับซ้อมเต้นเกี่ยวอยู่บนสะโพกแข็งแรงอย่างน่าหวาดเสียว ลองถ้าขยับตัวถูกองศาเสียหน่อยมันคงจะหล่นไปกองอยู่บนพื้นอย่างแน่นอน
“บริษัทโอเคแล้วรึไง
ถึงได้กล้าไปสัก” คยองซูปรายตามอง ถามเสียงเรียบ
แบคฮยอนทำปากยื่นกวนประสาทเมื่อไม่ได้รับคำตอบอย่างที่ต้องการ ก่อนจะดันตัวออกจากตู้เก็บเสื้อผ้าเดินไปหันรีหันขวางอยู่หน้ากระจกเอียงตัวเพื่อมองรอยสักที่เพิ่งได้มาอย่างชัดๆ
น้ำเสียงแหบราวกับเพิ่งแตกหนุ่มบ่นพึมพำออกมาเบาๆพลางไล้ปลายนิ้วลงบนตัวอักษรภาษาอังกฤษซึ่งถูกสลักติดกับเนื้อผิวของตัวเอง
“ฉันว่าเท่ออก”
“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่เท่
แค่ถาม ... บริษัทอนุญาตรึยัง”
“แล้วทำไมต้องขออ่ะ
ฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับร่างกายของฉันก็ได้”
“เฮอะ
แน่ใจ? ปากดีให้ได้แบบนี้ตอนโดนจับได้ก็แล้วกัน เรื่องนี้ต่อให้เป็นมินซอกฮยองก็ช่วยนายไม่ได้”
“กลัวที่ไหน
...”
เออ เอาเข้าไป!
ดวงตาคมของคนอ่อนปีกว่ามองใบหน้าของแบคฮยอนนิ่งอีกครั้ง ก่อนคยองซูจะยกแขนขึ้นกอดอกทอดสายตามองเพื่อนร่วมวงตรงหน้า
ไล่สายตาขึ้น ลงตั้งแต่ช่วงบ่าสู่บั้นเอวแต่ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเฟิร์ม
แน่นอย่างคนสุขภาพดี ไล่ต่ำลงเรื่อยๆจนมาหยุดมาหยุดอยู่ที่คำว่า 'Fearless' บนผิวขาวสะอาดของพยอนแบคฮยอน
“คยองซู
...”
น้ำเสียงแฝงแววขบขันของแบคฮยอนดังขึ้น ในขณะที่เจ้าของชื่อปิดปากเงียบ
“มองอีกแล้ว
...”
แบคฮยอนเดินเข้ามาใกล้และมองตอบกลับมาด้วยดวงตาแฝงนัยยะ คยองซูนิ่งค้างหลังจากสบกับดวงตาแสนมีเสน่ห์คู่นั้น
ให้ตายเถอะ เขาถึงว่า อย่าได้กล้าไปงัดข้อกับคนที่รู้จักจุดอ่อนของเราเป็นอย่างดี ร้ายชะมัด! “ถามว่าอยากดูใกล้ๆไหม?”
“ไม่”
และไม่รู้ว่าเพราะอะไร ... คยองซูถึงตอบกลับไปในแทบจะทันที
“โกหก
...”
แบคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงแฝงแววล้อเลียนเต็มที่พลางขยับมือ เอื้อมมาจะดึงแก้มเหมือนที่เล่นกันอยู่ประจำ
คยองซูเบี่ยงตัวหนี แต่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายก็ยังตามมาอีกหลายรอบและมันทำให้เขาหมดความอดทนในที่สุด
ฝ่ามือแข็งแรงของคนอายุน้อยกว่ากระชากข้อมือของแบคฮยอนยึดไว้แน่น
ถึงกับนิ่งกันไปทั้งคู่ แบคฮยอนหยุดชะงักทุกอย่างปล่อยให้คยองซูบีบข้อมือโดยไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
สบตากันอยู่เงียบๆพักหนึ่ง ในขณะที่ดวงตาหางตกเหมือนลูกหมาคู่นั้นมองมาและดวงตาหวานกลมขุ่นไปด้วยความไม่พอใจของคยองซูสบกลับก่อนคนที่เป็นฝ่ายโดนแกล้งจะถอนหายใจพร้อมกับเบือนหน้าหนี
ปล่อยข้อมือของแบคฮยอนในที่สุด
“อย่าเอาแต่ใจตัวเองให้มากนัก
แค่นี้ฉันก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว”
“คยองซู”
“พอเถอะ
ขี้เกียจจะพูดแล้ว อะไรควรทำ ไม่ควรทำ นายก็รู้ดีพอๆกับฉัน แค่ตอบตกลง
สำหรับคำถามก่อนหน้านั้นก็พอ” คยองซูว่า
ตัดฉับเข้าให้จนอีกฝ่ายหน้าเสีย
“ก็นายไม่เห็นจะสนใจฉัน
เดี๋ยวนี้วันๆขลุกอยู่กับแต่เซฮุน จะให้ทำยังไง นี่ถ้าไม่เห็นรอยสัก คงไม่คุยกันใช่ไหม”
“ก็ทำตัวให้มันดีๆหน่อยสิ
ฉันไม่ชอบเด็กไม่ดี ไม่รู้เหรอ?”
เป็นพยอนแบคฮยอนนั่นล่ะ ที่ถึงกับอึ้ง ...
คราวนี้คยองซูยิ้มกว้าง เขาเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายที่เหมือนโดนชกเข้าที่จุดตายเข้าให้บ้าง
ในเมื่อแบคฮยอนเอาจุดอ่อนของเขามาเล่น แล้วทำไม
เขาจะเอาจุดอ่อนของเจ้าตัวมาเล่นบ้างไม่ได้เล่า จุดอ่อนที่ว่า ... ในยามลับตาคน
พยอน แบคฮยอนมีรสนิยมชอบเป็น เด็กดี ของเหล่าฮยองในวงมากเพียงใด ความลับนี้
มีเพียงโดคยองซูคนเดียวนั่นแหละที่รู้ซึ้งอยู่แก่ใจ
โอ้ ถึงแม้ คยองซูจะไม่ได้เป็นหนึ่งในเหล่าฮยองพวกนั้นก็ตาม ...
แต่เขาก็ได้ยินเสียงเตียงกระแทกผนังชัดเต็มสองรูหูเลยทีเดียว โดยเฉพาะในกลางดึกที่พวกเด็กๆพากันหลับสนิทแล้ว
ก็มักจะถึงเวลาที่พยอนแบคฮยอนชอบให้เหล่าฮยองชมว่าตัวเองเป็น เด็กดี
มากแค่ไหน
เขารู้ดีทีเดียวเชียวแหละ ...
“เงียบเลย อยากให้สนใจนักไม่ใช่เหรอ ก็แค่เป็นเด็กดีน่ะ
ทำได้รึเปล่าล่ะ”
Game over!
-----------------------------------------
#exoficfest
GUESS WHO?
รู้ไหมว่าใครเขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น