23.10.59

Prompt : #485 Dirty Dog







Dirty Dog
Prompt : #485 จากคุณ BBBXCV
Pairing: แบคฮยอน / จงอิน
Summary: แบคฮยอนคือผู้ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร
Author : Ayahsoo
Author Note(s): ที่จริงเจ้าของพล็อตรีเควสมาให้ลัคกี้วันเป็นใครก็ได้ แต่ใส่ชื่อจงอินมา ถือว่าใจตรงกันจ้า

- เรื่องนี้อิงยศทหารเรือนะค้า ( CAPT หรือ Capt = Captain = นาวาเอก = “ผู้การ” ที่ย่อมาจาก “ผู้บังคับการเรือ” เพราะเรือรบขนาดใหญ่ ผู้บังคับการจะเป็นนาวาเอกทั้งสิ้น  //  CDR หรือ Cdr = Commander = นาวาโท นายทหารเรือยศนาวาโทอาจจะได้เป็นผู้บังคับการเรือเรือรบขนาดย่อมก็ได้เช่นเรือพิฆาต (destroyer) เรือฟรีเกต (frigate) ซึ่งเป็นเรือปืนขนาดเล็กกว่าเรือพิฆาต แต่คล่องตัวกว่าซึ่งอาจจะยิงตอร์ปิโด แลทิ้งทุ่นระเบิด ปราบเรือดำน้ำได้)









           คอมมานเดอร์พยอนแบคฮยอนเกลียดการถูกหน่วงเหนี่ยว กักขัง ...


            ก็ถ้าพูดให้ถูก เขาเกลียดการถูกลงโทษโดยการถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ เพราะเขาไม่คิดว่าจิตใต้สำนึกของใครจะเปลี่ยนได้ง่ายๆภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง การที่ทำผิดวินัยนิดๆหน่อยๆแล้วสั่งขังในห้องแคบๆ มันช่างเป็นการลงโทษที่โคตรไร้รสนิยม กำแพงสีขาวจ้าล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ไม่ได้ช่วยขัดเกลาจิตใจได้เลยสักนิด ตรงกันข้าม มันช่างน่าเบื่อหน่ายสิ้นดี


          แต่ก็ยังดี ที่เขาทำความดีความชอบเอาไว้เยอะ ...


            ไม่อย่างนั้น ถ้าโดนสอบสวนทางวินัยขึ้นมา ก็คงมีร้อนๆหนาวๆสันหลังกันบ้าง แต่ใครล่ะ จะกล้าทิ้งทุ่นนาวิกเดนตายแบบเขา ในเมื่องานสกปรก งานลับสุดยอดของกองทัพเรือที่ผ่านมาก็พยอนแบคฮยอนทั้งนั้นที่เป็นแนวหน้าอาสาไปทำให้แบบไม่ห่วงชีวิตตัวเอง


            แต่ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ... ที่ครั้งนี้ แบคฮยอนซัดทหารใหม่เสียน่วม โทษฐานปากไม่ดี พูดจาลามปาม กัปตันคนโปรดของเขา มองครั้งแรกมันยังไม่หยุดหรืออาจจะเป็นเพราะวันนี้เขาไม่ได้ใส่เครื่องแบบ กลุ่มทหารใหม่ถึงไม่รู้ว่า เขา ... ผู้ซึ่งมีใบหน้าเหมือนหนุ่มรุ่นๆมีตำแหน่งอะไรในเรือรบซึ่งทหารหัวโล้นอย่างพวกมันต้องขึ้นประจำการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พอมองครั้งที่สองพวกมันก็กวนตีน ส่วนครั้งที่สาม ที่ทำให้แบคฮยอนโมโหจนฟิวส์ขาด


            เพราะมันถามกลับมาว่า ทำไมจะด่าไม่ได้ คิมจงอินเป็นเมียมึงรึไง?’


            คิมจงอิน งั้นเหรอ ... กัปตันคิมจงอินต่างหาก ไอ้พวกโง่เอ๊ย


            นอกจากไม่เคารพผู้บังคับบัญชาการสายตรงของตัวเองแล้ว พวกหัวโล้นนี่วอนชะตาขาดเพราะคำว่า เมีย แบคฮยอนโกรธจัดเพราะใครก็พูดถึงกัปตันแบบนั้นไม่ได้ นอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น


            มันแทบไม่สำคัญด้วยซ้ำว่าเขาจะผิดจริงหรือไม่ เพราะกองทัพเรือมีภารกิจสำคัญต้องจมเรือรบพิฆาตของประเทศเพื่อนบ้านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งถ้าหากต้องบู้ล้างผลาญกันขึ้นมาจริงๆ ยังไงก็ขาดเขาเป็นผู้นำทีมไปไม่ได้ อีกอย่างถ้าหากแบคฮยอนโดนลงโทษทางวินัย แล้วใครจะเป็นคู่คิดให้กับกัปตันจงอินกันเล่า


            โอ้ เขามั่นใจทีเดียวแหละ อีกไม่ถึงชั่วโมง แบคฮยอนจะได้ลอยลำออกจากห้องขังโง่ๆนี่อย่างแน่นอน แต่ก่อนจะเข้ามาที่นี่ ทหารที่เป็นคนจับกุมเขามา ได้ริบของใช้ส่วนตัวไปจนหมด จะเหลือไว้ก็แต่ ... แบคฮยอนยืนคิดก่อนวินาทีถัดมาปลายลิ้นจะกวาดไปโดนห่วงเล็กๆที่เพิ่งถูกเจาะแถวๆริมฝีปากล่างเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน


            วันนี้เขาใส่ห่วงเงินแถมโซ่ห้อยเชื่อมห่วงที่ปากลากยาวไปถึงต่างหูด้านขวาอีกด้วย


            ยังจำได้ดี สีหน้าของกัปตันคนโปรดในตอนที่เห็นห่วงทั้งสองของเขาชัดๆ จงอินชะงักไปพักหนึ่งแล้วก็อึ้งจนทำหน้าไม่ถูกก่อนจะตะเบ็งเสียงดังลั่นสั่งให้ถอดทั้งห่วงปากและต่างหูในตอนนั้นเลย ศีลธรรมและความถูกต้องกับความเจ้าระเบียบในตัวผู้การหนุ่มคงเต้นเร่าๆเมื่อได้เจอผู้ใต้บังคับบัญชาการอย่างพยอนแบคฮยอนเข้าให้


            ร่างสมส่วนเดินวนเชื่องช้าในห้องขัง มือทั้งสองล้วงกระเป๋ากางเกงลายพรางของตัวเอง ไม่ได้ยี่หระต่ออาการแสบๆคันๆที่ข้อนิ้วจากการสวนหมัดต่อยใครเลยสักนิด เสื้อยืดสีดำสนิทยับยู่ยี่และมีรอยเลือดซึ่งไม่ใช่ของเจ้าตัวติดอยู่หย่อมเล็กๆ แบคฮยอนก้มลงมองพลางยักไหล่ ปลายลิ้นยังคงดุนห่วงที่ริมฝีปากเล่นอย่างที่เคยทำเป็นประจำหลังจากที่ไปเจาะมา


            จะว่าไป เรื่องห่วงนี่ยังเบาๆ เมื่อเทียบกับสมัยที่แบคฮยอนบรรจุเข้ามาในหน่วยของกัปตันจงอินใหม่ๆ ทั้งลงโทษสถานเบา สถานหนัก จะว่า จะด่า จะสอนหรือจะซ้อม จงอินก็ทำมาหมดแล้ว พยอนแบคฮยอนไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้ามเลย เขารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนฉลาด แถมแกมโกงให้อีกด้วย


            แต่กับจงอิน กว่าชายหนุ่มจะรู้ก็เสียค่าโง่ให้เขาไปหลายครั้ง แต่ครั้งที่ประทับใจแบคฮยอนมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ตอนที่โดนจงอินต่อยจนหน้าหันเมื่อครั้งปากไวเถียงกัปตันเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบของกองทัพเรือ


            ก่อนจะแหกกฎ ผมอ่านมันครบหมดทุกข้อแล้วครับกัปตัน


          บทลงโทษของทหารใหม่พยอนแบคฮยอนในตอนนั้นก็คือ โดนสั่งให้ไปประจำการในน่านน้ำที่โคตรจะห่างไกลจากความเจริญเป็นเวลาหกเดือนเต็ม


            ส่วนกัปตันคิมจงอินก็ได้เรียนรู้ว่า พยอนแบคฮยอนมีแววกลายมาเป็นหนึ่งในทหารตัวจี๊ดของกองทัพเรือในเวลาต่อมา แต่หากมีกฎเพียงสองข้อที่เจ้าตัวจะทำตามนั่นก็คือ การใส่ยูนิฟอร์มเวลาออกปฏิบัติการกับการวางแผนยุทธการทางการรบตามกฎสากลเพียงเท่านั้น


          เสียงกริ่งดังยาวติดกัน ...


            แบคฮยอนยิ้มเพราะมันคือสัญญาณว่ามีใครบางคนเปิดระบบนิรภัยของห้องขังเข้ามา


            ถ้าให้เดาก็คงไม่พ้น กัปตัน ... นาวาเอกคิมจงอินนั่นแหละ ที่ถ่อมารับตัวเขาถึงที่


            รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าขาวจัดของคอมมานเดอร์หนุ่ม แบคฮยอนผิวปากเป็นทำนองเพลงมาร์ชประจำกองทัพเรือที่ได้ยินแทบทุกเช้าระหว่างเอนศีรษะและหัวไหล่เข้ากับผนัง กระดิกปลายรองเท้ายิกๆในแบบที่รู้ว่ากัปตันเกลียดมันเป็นที่สุด ก็นั่นแหละ ยิ่งเกลียด แบคฮยอนก็ยิ่งยั่วให้โกรธจนควันออกหู เขาชอบเวลาจงอินโกรธจนหลุดมาดน่าเกรงขามออกมาเพราะมันโคตรเซ็กซี่เลยให้ตาย


            เคยเห็นร็อตไวเลอร์โดนลามโซ่เหมือนเป็นแมวเชื่องๆไหม ...


          เวลาที่มันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แยกเขี้ยว ส่งเสียงขู่กรรโชกจนน้ำลายหยดติ๋งๆ พยายามจะกระโจนเข้ามากัดแต่ก็ติดที่โดนพันธนาการเอาไว้ ในขณะที่ดวงตาจ้องตรงมาเป็นการสัญญาว่า ถ้าหากโซ่ขาดเมื่อไหร่ ... ไม่ตายดีแน่ๆ


            เคยไหม ที่มองแล้วรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า มันสะใจในอารมณ์ยิ่งกว่าตอนรบชนะเสียอีก


            น่าเสียดายที่กัปตันของเขาไม่ใช่ ร็อตไวเลอร์ ...


            แต่คิมจงอินเป็นเสือต่างหาก


เปรียบได้กับเสือคาบดาบของเหล่าทหารบก ที่น่าเกรงขาม เต็มไปด้วยภาพลักษณ์อันน่าเคารพ รักความสงบแต่ถ้าเกิดโมโหก็อันตรายถึงชีวิต ส่วนเขาเป็นหมา ... แบคฮยอนคิดก่อนจะกลั้วหัวเราะในลำคออยู่คนเดียว หมาแล้วยังไง?


ขนาดเพื่อนทหารด้วยกันยังตั้งฉายาให้เขาว่า เดอร์ตี้ ด็อก


ไอ้หมาเจ้าเล่ห์ ...


            แต่จะหมาหรือจะเสือ ยังไงก็ตาม ...


            ไอ้หมาตัวนี้ก็ใส่ปลอกคอให้เสือ พาเดินจูงไปไหนมาไหนได้ก็แล้วกัน


            แบคฮยอน ... นาวาโทพยอนแบคฮยอน


          เจ้าของชื่อไม่แม้แต่จะสะดุ้ง แบคฮยอนทำแค่ยืนตัวตรง สบตากับเจ้าของเสียงนุ่มทุ้ม เขาอยากจะยิ้มแต่ในตอนที่มีนายทหารติดตามจงอินมาด้วย ชายหนุ่มจึงยกมือทำเคารพผู้ที่ยศสูงกว่าอย่างอดไม่ได้ เพราะเรื่องยิ้ม ... ไว้ค่อยไปยิ้มตอนอยู่กันสองคนก็ได้


            จงอินมองหน้าลูกน้องในบังคับบัญชาของตัวเองนิ่งๆก่อนจะถอนหายใจ ถึงแม้จะตั้งใจกดน้ำเสียงเรียกทั้งยศ ทั้งชื่อของอีกฝ่ายเพื่อให้สำนึกในหน้าที่และเกียรติของกองทัพเรือที่อยู่บนบ่า แต่ด้วยรู้นิสัยของแบคฮยอนเป็นอย่างดี เจ้านี่ไม่สำนึกหรอก ไม่รู้สึกรู้สาในแบบที่เขารู้สึกด้วย


          “ออกไปก่อน ผมจะคุยกับคอมมานเดอร์แบคฮยอนตามลำพัง


ท้ายที่สุดจงอินก็หันไปออกคำสั่งกับทหารที่ตามติดมาด้วย ชายหนุ่มอีกคนรับคำเรียบๆก่อนจะทำความเคารพแล้วหันหลังเดินจากไป แต่ก่อนที่จงอินจะได้เปิดปากพูดอะไร น้ำเสียงแหบแห้งของคนในห้องขังก็ชิงดังขึ้นมาก่อน


            วันนี้กัปตันแต่งตัวหล่อจัง


          จงอินนิ่ง ในขณะที่แบคฮยอนเลื่อนสายตาขึ้น - ลงมองรูปร่างสูงสง่าของชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มๆ ถึงแม้ไม่ได้ใส่ยูนิฟอร์มตามปกติ แต่คิมจงอินก็ยังแต่งตัวเนี้ยบเป็นนิสัย เสื้อเชิ้ตพอดีตัวที่แทบจะแน่นแนบไปกับหุ่นฟิตๆสวมทับในกางเกงยีนส์สีเข้มพร้อมทั้งคาดเข็มขัดทับอีกชั้นอย่างเรียบร้อย สไตล์หนุ่มใหญ่ ผู้รากมากดีดั่งที่เห็นจนชินตา ทั้งนาฬิกาเรือนละเป็นล้านวอนหรือจะทรงผมเซตเรียบแปล้เหมือนจะไปออกงาน


            ลูกคุณหนูจากตระกูลดังที่ผันตัวมาเป็นทหารก็อย่างนี้นั่นแหละ ...


            ไอ้หล่อคมเข้มมันก็หล่ออยู่หรอก แต่มันไม่เร้าใจเหมือนเวลาที่เขาแหย่จนลืมตัวโกรธควันออกหูน่ะสิ แล้วยิ่งตอนใส่ยูนิฟอร์มยิ่งหล่อ หล่อทั้งหน้า หล่อทั้งหุ่น ตอนแรกก็หล่อหมดจดในตัวเองอยู่แล้ว นี่เพิ่มเครื่องแบบทหารเสริมบารมีเข้าไปอีก เดินไปไหนสาวๆมองเหลียวหลังตามกันเป็นแถบ มีทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งอยากจะมี ผิวเข้มสวยเด่นอีกด้วย หล่อแบบที่ผู้ชายด้วยกันเองก็ยังต้องยอม


            แต่หลังจากรู้จักกันมาหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว ...


            รู้ไหม?


            ว่าตอนไหน กัปตันจงอินหล่อร้ายกาจมากที่สุด ...


            ก็ ... ตอนที่ร่างสูงสง่านอนเปลือยเปล่า ขาแยกกว้าง เปิดเผยตัวตนที่เร้นลับที่สุดให้เดอร์ตี้ ด็อกอย่างเขาได้ชื่นชมยังไงล่ะ หล่อยิ่งกว่าตอนใส่ยูนิฟอร์มเสียอีก โคตรหล่อทรมานใจแบบที่เบอร์ตองในเมืองยังเทียบไม่ได้ เวลาเสือมันครางหงิงๆน่ะ ไพเราะยิ่งกว่าเสียงหญิงสาวเวลาสุขสมมากเพียงใด เกิดมาอายุจะแตะเลขสี่อยู่รอมร่อ แบคฮยอนก็เพิ่งรู้ในตอนนั้นเอง


            ภาพลักษณ์ที่เคยเนี้ยบกริบ ... เวลามันถูกตีแตก กลายเป็นชายหนุ่มเสื้อผ้าหลุดลุ่ย นอนตัวอ่อนอยู่กลางเตียงนี่มันเร้าใจชะมัด แบคฮยอนไม่เคยขับเครื่องบินมาก่อนในชีวิต เฉพาะฉะนั้นเขาเลยไม่รู้ว่า มุมมองจากบนฟ้าจะสวยเท่ากับมุมที่เขาเคยก้มมองกัปตันตอนที่อยู่ใต้ร่างของเขาหรือไม่


            หรือจะทรงผมเรียบแปล้ราวกับนายแบบบนปกนิตยสารมาเอง ตอนที่มันกระจัดกระจายลงมาปิดดวงตา ล้อมกรอบใบหน้า แบคฮยอนคิดว่าเขาไม่เคยเห็นกัปตันจงอินดูดีมีชีวิตชีวาเท่านี้มาก่อนเลย หรือจะเป็นตอนที่อีกฝ่ายใช้น้ำเสียงเรียบๆแต่ทุ้มหนักตะโกนสั่งลูกน้องในบังคับบัญชาเสียจนสะดุ้งโหยงกันเป็นแถบๆ ...


            แต่ตอนอยู่ในห้องนอน มันกลับหลงคีย์เหมือนคนจะขาดใจ ในตอนที่แบคฮยอนหยัดสะโพกแรงๆเข้าหา ฝ่ามือยันเข่าสากๆให้แยกออก ... กว้างในแบบที่เขาไม่คิดว่าร่างกายผู้ชายจะยืดหยุ่นได้ถึงเพียงนี้ เพราะอีกนิดเดียวหัวเข่าก็จะแตะหัวไหล่อยู่แล้ว ที่สำคัญแบคฮยอนเฉี่ยวโดนจุดสวาทหรือบ้างเปล่า เขาเองก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือกัปตันสุขสมจนร่างกายของเราทั้งสองคนเปรอะน้ำเหนียวเหนอะเต็มไปหมด


            และก่อนที่จะได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่เหมือนในทุกวันนี้ เสียงเล่าในกองทัพเรือดังหนาหูว่าคิมจงอินต่อสู้มือเปล่าได้ยอดเยี่ยมราวกับฝึกจากหน่วยรบพิเศษ แบคฮยอนเลยอยากลองของ ... ก็เก่งจริง สมคำร่ำลืออยู่หรอก แต่คนที่เก่งตามตำรามีหรือจะสู้หมาข้างถนนอย่างเขา ที่เรียนการต่อสู้มาจากการหนีหัวซุกหัวซุกเอาชีวิตรอดในแบบสลัมของแท้ได้


            ไม่มีทาง ...


          ไม่อย่างนั้น ทหารด้วยกันเองจะเรียกแบคฮยอนว่าเป็น เดอร์ตี้ ด็อก อย่างนั้นหรือ


            อย่าพูดมากแบคฮยอน


          จงอินพูดเสียงเรียบก่อนจะยกมือกดรหัสห้องขัง เสียงตื้ดดังขึ้นอีกครั้งแล้วประตูเหล็กก็เปิดออก ปลดปล่อยเจ้าของชื่อเป็นอิสระในที่สุด สภาพดูไม่ได้ ทำอะไรให้เกียรติยศบนบ่าของคุณบ้าง


          สั่งสอนแบบในตำรา เป๊ะ ...


            แบคฮยอนคิดว่าตัวเองทำนิ่งเฉย แต่ก็ดันเฉยได้ไม่นานเมื่อจงอินโยนกระเป๋าเป้ที่โดนริบไปคืนมาให้ สายตาของชายหนุ่มจ้องเขม็งที่ห่วงแถวๆริมฝีปาก คราวนี้จงอินเดินเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้านิ่งสนิทก่อนจะเอื้อมมือมากระชากทีเดียวโซ่ที่คล้องไว้หลวมๆเชื่อมห่วงปากกับต่างหูก็หลุดติดมือออกมาในทันที


            แบคฮยอนผงะถอยห่าง ฝ่ามือตะปบเข้าที่ห่วงปากเป็นลำดับแรก เจ็บจี๊ดไปถึงก้านสมองแต่โชคดีที่เหล็กไม่ได้เกี่ยวจนเป็นแผลเหวอะหวะหรือจะโชคดีที่จงอินยังไม่เหี้ยมพอที่จะดึงตัวห่วงตรงๆเลยมากกว่า


            กัปตัน!” เขาตะโกนลั่น


            จงอินไม่พูดอะไร ฝ่ามือปาสายโซ่ที่ดึงติดมาลงพื้นแล้วยกมือขึ้นชี้หน้าลูกน้องในบังคับบัญชา สั่งเสียงเขียวในทันที ถอดออกให้หมด อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำ


          แบคฮยอนถอนหายใจ รู้ดีว่าคราวนี้จงอินเอาจริง ท่ามกลางสายตาของกัปตันหนุ่มที่จ้องตรงมา ชายหนุ่มถอดห่วงทั้งสองใส่กระเป๋ากางเกงอย่างว่าง่าย ทั้งปาก ทั้งหู ยังชาตึบจากแรงกระชากเมื่อครู่


            แล้วจำเอาไว้ หน้าที่ของคุณคือทำลายศัตรู ไม่ใช่ทำร้ายพวกเดียวกัน


ย้ำเสียงเข้มอีกรอบ ก่อนร่างสูงสง่าจะหันหลังเดินออกไป แบคฮยอนเงียบแต่ก็รู้ได้โดยสัญชาติญาณว่าควรเดินตามเจ้านายไปด้วย ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้จนแทบจะกลายเป็นการเดินเคียงข้างกับคิมจงอินในที่สุด


            แล้วกัปตันรู้รึเปล่า ว่าทำไมผมถึงอัดมัน


          จงอินปิดปากเงียบอยู่พักหนึ่ง ขายาวยังคงก้าวเดินต่อไป ไหล่ตั้ง อกผายไหล่ผึ่ง สมกับเป็นชายชาติทหารแบบไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น ชายหนุ่มเงียบก่อนจะตอบเสียงเรียบในที่สุด รู้


          “งั้นก็เข้าใจเหตุผลของผมแล้วสิ


          คราวนี้จงอินหยุดเดิน ใบหน้าหล่อจัดหันกลับมาปรายตามองเขาอีกครั้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งยิ่งกว่าเดิม ผมปกป้องตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ลูกน้องมาปกป้อง นั่นคือหน้าที่ของผม แล้วตัวคุณล่ะ คอมมานเดอร์แบคฮยอน รู้หรือเปล่า หน้าที่ของคุณคืออะไร หลายๆครั้งที่คุณทำตามใจตัวเอง ผมไม่เคยว่า เพราะนั่นมันคือเรื่องส่วนตัวของคุณ ที่คุณรอดตัวไปได้แทบทุกครั้งเพราะคุณนำทีมทำภารกิจสำเร็จ แต่ครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับผม อย่าทำให้ผมเสียระบบการปกครอง อย่าทำแบบนี้อีก ศักดิ์ศรีของผมก็เป็นเรื่องของผมที่จะจัดการกับมันยังไงก็ได้


          แบคฮยอนเงียบ ...


            ยศของคุณก็ไม่ใช่เล็กๆเหมือนเมื่อก่อน ต่อให้คุณไม่อยากมีความรับผิดชอบเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งพึงมี แต่ถ้าจะอยู่ในกองทัพเรือ ถ้าจะอยู่กับผม คุณต้องเปลี่ยนตัวเอง อีกหน่อยหน้าที่การงานของคุณก็จะเจริญก้าวหน้ามากกว่านี้ เพราะคุณเป็นคนเก่ง คุณต้องเป็นเจ้าคนนายคนต่อไป ผมเองก็เบื่อที่จะต้องมานั่งสั่งสอนคุณ จะฟังไม่ฟังก็แล้วแต่ แต่ครั้งนี้ผมขอร้องให้คุณเก็บไปคิด


          เออเว้ย อยู่ดีๆก็ดราม่า ...


            ปกติถ้าพูดอะไรทะลึ่งหรือทำเป็นไม่สำนึก คงโดนตบกบาลจนหน้าเบี้ยวก่อนเป็นลำดับแรก แบคฮยอนมองจงอินอย่างค้นหาและพบว่าชายหนุ่มอีกคนมีท่าทีเหนื่อยใจอย่างแท้จริง คำถาม คำพูดมากมายที่หลั่งไหลอยู่ในสมองก็หายไปในทันที เขาเอื้อมมือข้างที่ยังว่างล้วงไปหยิบห่วงทั้งสองออกมาถือ ก่อนจะเดินไปดักหน้ากัปตันหนุ่ม


            คนทั้งคู่หยุดชะงัก จงอินนิ่งเป็นนิสัยแต่สายตากลับตั้งคำถาม แบคฮยอนไม่พูดอะไร เขายื่นมือออกไปข้างหน้า แบออก บนฝ่ามือมีห่วงที่มันรบกวนจิตใจจงอินมากเพียงใด เขารู้ดี นอนนิ่งอยู่และเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจ ใบหน้าหล่อจัดเผยรอยยิ้มเพียงเล็กน้อยแล้วจึงหยิบห่วงทั้งสองมาถือนิ่งๆ ราวกับให้เวลาแบคฮยอนทำใจ อึดใจถัดมา ชายหนุ่มร่างสูงก็เดินหลังตรงไปที่ถังขยะ โยนห่วงทิ้งแบบไร้ความอาลัยอาวรณ์ใดๆทั้งสิ้น


            วันนี้ผมปลดคุณออกจากหน้าที่ กลับหอนอนไปซะ


          แบคฮยอนเลิกคิ้ว ห้องไหนครับกัปตัน


          “คุณรู้ดีว่าหอไหน คอมมานเดอร์แบคฮยอนจงอินตอบพร้อมกับถอนหายใจ


            ถูกต้องครับ ผมรู้ดีว่าหอไหน แต่ที่ผมถาม ... ผมถามว่าห้องของใครต่างหากน้ำเสียงแหบถามพลางกลั้วหัวเราะ แทบจะปิดบังรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้ไม่มิดแล้วด้วยซ้ำ


            จงอินนิ่งไปพักหนึ่ง ร่างสูงสง่าหันกลับไป ตั้งท่าจะออกเดินต่อก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน


            ถ้ายังมีแรงเหลือ จะห้องผมหรือห้องคุณก็แล้วแต่ ...



         
จะมีหมาตัวไหนโชคดีไปกว่าเขาอีก ...


          วันข้างหน้า อาจจะมีก็ได้ ... เขาเองก็ไม่รู้


            แต่ที่รู้ก็คือตอนนี้ .. พยอนแบคฮยอนเป็นหมาตัวเดียว


            ที่ได้เห็นเสือร้องไห้ด้วยความสุขสมอยู่ทุกค่ำคืน










The end





----------------------------------------

#exoficfest


GUESS WHO?
รู้ไหมว่าใครเขียน







ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

© LUCKY ONE FIC FEST
Maira Gall