BUS ROUTE 145
Prompt: #553 จากคุณ
Litra
Pairing : Byun Baekhyun / Kim Minseok
Author : Irishxmm
Summary : รถบัส ฤดูหนาว ผ้าพันคอ
Song : Milk Tea - Shota Shimizu
เราเจอทุกวันบนรถบัสประจำทางสาย
145 คุณมากับแฟนสาว ส่วนผมมาคนเดียว
หิมะตกโปรยปรายนอกหน้าต่างเหมือนทุกวัน ผมห่อไหล่ขณะยัดมือสองข้างลงกระเป๋าแจ็กเกต พยายามฝังหน้าลงกับผ้าพันคอหนา และดวงตาทั้งคู่จับจ้องไปที่ 'คุณ' ที่ยืนจับห่วงอยู่ห่างออกไปเพียงช่วงแถวที่นั่ง
คุณเป็นผู้ชายตัวเล็ก กะจากสายตาแล้วน่าจะเล็กกว่าผม ผิวขาวเหมือนหิมะ แต่เป็นหิมะที่แต้มด้วยสีชมพู เพราะแก้มทั้งสองข้างของคุณคงไม่ถูกกับความเย็นอย่างนี้สักเท่าไร ผมเห็นตัวคุณสั่นกึกทั้งที่อยู่ในเสื้อกันหนาวตัวหนา แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้นคุณกลับพยายามทำตัวแมนด้วยการยกผ้าพันคอให้แฟนสาวที่ตัวเล็กกว่า ผมเกือบจะร้องห้ามออกไปแล้วถ้ายั้งตัวเองไม่ทัน คุณขี้หนาว ผมรู้ ดังนั้นสำหรับผมที่เป็นคนนอกแล้วคุณทั้งดูน่ารัก ที่พยายามเอาใจแฟนสาว และในขณะเดียวกันก็น่าโมโหด้วย
คุณน่ารัก แฟนสาวของคุณก็น่ารักเช่นกัน และทั้งหมดนั้นก็ทำให้ผมอิจฉาเหลือเกิน
ผมห้ามคุณดูแลแฟนสาวไม่ได้ ดังนั้นผมจึงทำเป็นลืมร่มไว้ข้างที่นั่งใกล้กับที่คุณยืนอยู่ อย่างน้อยมันก็กันเกล็ดหิมะไม่ให้ร่วงใส่หัวคุณได้ คุณจะได้ไม่เสี่ยงเป็นไข้หวัดไปมากกว่าที่ทำอยู่
ผมเป็นห่วงคุณ แต่กลับพูดออกไปไม่ได้ มันน่าอึดอัด...น่าอึดอัดมากจริงๆ
แววตาคุณดูมีความสุขยามพูดคุยกับเด็กสาวคนนั้น ผมทำได้เพียงถอนหายใจแล้วบอกกับตัวเองว่าอย่างน้อยก็ได้เห็นรอยยิ้มของคุณ และนอกเหนือจากนั้นคือการบอกตัวซ้ำไปซ้ำมา
'อย่าโลภนักเลย แบคฮยอน'
*
เราเจอทุกวันบนรถบัสประจำทางสาย
145 ปกติคุณมากับแฟนสาว แต่วันนี้คุณมาคนเดียว ผมเองก็เหมือนกัน
วันนี้หิมะก็ตกเหมือนอย่างที่มันเป็นมาตั้งแต่ต้นเดือน ผมยังคงซุกมือกับกระเป๋าแจ็กเกตตัวเดิม และแอบมองคุณก้มหน้าลงกับผ้าพันคอผืนใหญ่จนเห็นแต่ดวงตาเรียวสวย น่ารักเหมือนหนูแฮมสเตอร์พยายามต่อสู้กับสภาพอากาศ แต่ตอนนั้นผมก็เพิ่งสังเกตุว่าวันนี้คุณดูแปลกไป ดวงตาของคุณบวมช้ำ ไม่เปล่งประกายเหมือนเดิม ซ้ำยังเป็นสีแดงจางๆ ไปทั่วเหมือนกับสีปลายจมูกของคุณ
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศหนาวหรือการหายไปของเด็กสาวข้างกาย แต่โดยรวมผมดูแล้วไม่คิดว่าคุณ 'โอเค' สักเท่าไร และนั่นทำให้ผมเลือกยืนอยู่ข้างตำแหน่งที่คุณจับห่วงอยู่
รถบัสเลยป้ายที่คุณลงประจำไปแล้ว ผมเกือบจะสะกิดให้รู้ตัว แต่มันคงดูแปลกประหลาดเมื่อคนไม่รู้จักบอกคุณว่า ‘เฮ้ นี่เลยป้ายแล้วนะ’ ผมจึงได้แต่ถอนหายใจและทำเป็นว่าถูกดันมาจากด้านหลังจนคุณหลุดจากภวังค์แทน
คุณดูเหม่อลอยจนน่าเป็นห่วง มันเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกอึดอัด เพราะผมไม่สามารถแม้แต่จะถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ผมกัดริมฝีปาก ในหัวพยายามเค้นหาวิธีพูดกับคุย หากสิ่งที่หลุดออกจากปากกลับเป็นเพียงการอ้าพะงาบเหมือนปลาทองในโหล และสุดท้ายคุณก็ลงจากรถเมื่อถึงป้ายถัดมาโดยที่ผมทำอะไรไม่ได้ เหมือนทุกครั้ง...ในทุกๆ ครั้ง ที่คุณอยู่ในระยะสายตา
ผมเป็นห่วงคุณจนในอกร้อนไปหมดแต่กลับพูดออกไปไม่ได้แม้สักคำ และในตอนนี้ผมก็ยิ่งน่าอึดอัด มากกว่าวันไหน
แววตาของคุณเมื่อครู่หม่นแสงจนน่าหวั่นใจ มันดูเศร้าสร้อยจนผมเผลอนึกไปถึงแฟนสาวตัวเล็กคนนั้น อย่างน้อยเธอก็ทำให้คุณยิ้มได้ อย่างน้อย...เธอก็เป็นสาเหตุรอยยิ้มที่ผมหลงรัก
*
เราเจอกันทุกวันบนรถบัสประจำทางสาย
145 คุณมาคนเดียวอีกแล้ว ส่วนผมก็เหมือนเคย
หิมะเบาบางลงแล้วเมื่อถึงปลายเดือน ท่าทางคุณดูดีมากกว่าอาทิตย์ก่อน ในมือเล็กมีชานมสีอ่อน ผมมองคุณประคองมันอย่างระมัดระวังขณะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยสาร ท่าทางเป่าขอบถ้วยเบาๆ ก่อนจิบนั่นน่ารักจนเกือบอดใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้และภาพฟองนมรอบริมฝีปากก็ยิ่งทำให้ผมเกือบจะเป็นบ้า
ไม่ว่าจะด้วยชานมแก้วนั้นหรือเสื้อไหมพรมนุ่มนิ่มสีครีมก็ตาม แต่วันนี้คุณน่ารัก น่ารักยิ่งกว่าวันไหน
รถบัสยังคงวิ่งไปตามถนนเส้นเดิมอย่างทุกวัน โดยปกติแล้วผมมักยืนอยู่ด้านหลังของคุณข้าง ไม่ก็ด้านข้าง แต่วันนี้คุณมีที่นั่งและก็ผมถูกดันมาจนชิดเก้าอี้ที่คุณนั่งพอดี คนข้างหลังก็เบียดเข้ามาเรื่อยๆ ผมก็ต้องคอยเกร็งตัวไว้ไม่ให้ล้มใส่คุณ แค่คิดก็ยังหวั่นใจ วันนี้เราอยู่ใกล้กันมากเกินไป...จนผมกลัวว่าคุณจะได้ยินเสียงหัวใจ ปลายเท้าของผมจิกแน่นจนเหมือนจะทะลุรองเท้าลงไปจิกกับพื้นห้องโดยสาร
ให้ตายสิ...จากตรงนี้ผมได้กลิ่นชานมในแก้วของคุณด้วยซ้ำ
บางขณะที่เราบังเอิญสบตากันอย่างไม่ตั้งใจคุณก็ยังใจดีส่งยิ้มบางมาให้ ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนตอบกลับไป แต่เดาจากรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าน่ารักนั่น อ่า...คิดว่าผมคงดูงี่เง่าน่าดู
แล้วไม่นานนักก็ถึงป้ายประจำที่คุณต้องลง คุณผุดลุกขึ้นยืนในจังหวะที่ผมกำลังถูกเบียดเพราะคนด้านหลังพยายามจะเดินสวนไปที่ประตูพอดี ศีรษะเราโขกกันพอดีจนเป็นที่น่าขบขันของผู้โดยสารร่วมขบวน คุณหัวเราะพลางใช้มือลูบหน้าผาก ผมกัดปากพยายามกลั้นรอยยิ้ม แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน
“ขอโทษครับ” คุณพูดทั้งที่รอยยิ้มยังวาดเต็มใบหน้า พลางเบี่ยงหลบผมออกไปตรงทางเดิน
“ไม่...--ไม่เป็นไรครับ”
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นลูกโป่งได้ ภาพรอยยิ้มน่ารักของคุณลอยฟุ้งอยู่ในหัว กลิ่นชานมของคุณยังติดอยู่ปลายจมูก และเมื่อรู้ตัวอีกที...ผมก็ดันเซ่อเดินตามคุณลงมาจากรถประจำทางเสียแล้ว!
“ปกติคุณไม่ได้ลงป้ายเดียวกับผมนี่?”
คุณหันมาพูดน้ำเสียงประหลาดใจเมื่อเห็นผมเดินตามลงมา ริมฝีปากของผมอ้าค้าง สมองคิดหาคำแก้ตัวเหมาะๆ “ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณตกใจนะครับ ที่ทักไปแบบนั้น คือ...ผมแค่เห็นคุณบนรถบัสทุกวัน แล้วก็ไม่เคยลงป้ายเดียวกันลงสักครั้ง--”
กลายเป็นคุณที่พยายามพูดอธิบาย ส่วนผมยืนบื้อเหมือนหุ่นไล่กา
คุณขบริมฝีปากมองผมคล้ายจะขอโทษผ่านทางสายตา ผมยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่คิดหาคำแก้ตัวอะไรอีกแล้ว เพราะผมคงไม่สามารถดูโง่ไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
“ผมชื่อบยอน แบคฮยอนครับ”
โทษรอยยิ้มน่ารักของคุณได้ไหม? โทษกลิ่นหอมของชานมในแก้วกระดาษของคุณได้หรือเปล่า? ผมจึงได้โพล่งแนะนำตัวออกไปแบบนั้น ดวงตาของเราสบกันอยู่ครู่หนึ่ง คุณดูเหวอไปนิดหน่อย แน่ล่ะ ผมไม่อาจคาดหวังไปมากกว่านี้หรอก แค่คุณไม่วิ่งหนีก็ดูแค่ไหนแล้ว แต่สุดท้ายหลังจากผ่านไปหลายวินาทีคุณก็หัวเราะออกมา ใบหน้ากลมฝังกับผ้าพันคอสีอ่อนก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาผมอีกครั้ง
“ผมมินซอกครับ คิม มินซอก”
รอยยิ้มของพวกเราถึงส่งให้กันอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก ไม่แค่ความบังเอิญสบตาแล้วจึงส่งยิ้มไปตามมารยาทอย่างครั้งก่อน หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนกลองรัว ในที่สุดผมก็ไม่ต้องทำตัวเป็นคนโรคจิตคอยแอบมองคุณบนรถบัสประจำทางอีกต่อไป
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
----------------------------------------
#exoficfest
GUESS WHO?
รู้ไหมว่าใครเขียน
น่ารักT_T
ตอบลบงื้ออ เราชอบคู่นี้มากเลยคร่า ขอบคุณที่แต่งคู่นี้มานะคะ มีความสุขที่ได้อ่านมากๆเลยค่ะ ��
ตอบลบ